| *** มีอยู่ช่วงนึงสมัยที่ยังมีนิตยสารรายปักษื หรือรายเดือนอยู่ ผมจำได้ว่ามีคอลัมน์แนะนำโทรศัพท์ที่กำลังตกรุ่นแต่น่าสนใจในการซื้อหามาใช้งานด้วย ถ้าจำไม่ผิดชื่อคอลัมน์ว่า "รุ่นเด่นราคาดิ่ง" |
| ได้สายชาร์จมาสะสมอีกเส้นด้วยหนาออเจ้า |
สำหรับรีวิวของผมนี่ มาจากการใช้งานจริงจัง 6 เดือนครับ ไม่ได้ลองแค่ 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์แล้วมาเขียนบรรยายรายละเอียดแน่นอน
รูปร่างหน้าตา ขนาด น้ำหนัก
| ขนาดพอๆกับกล่องลูกอมฮอลส์ |
กล่องชาร์จและเก็บหูฟัง
แน่นอนครับ สินค้าจากแอปเปิล เอกลักษณ์มันก็มีอยู่ในตัวอยู่แล้ว Airpod นี่ผมเห็นครั้งแรกถ้าคิดว่ามันเหมือนสินค้าตัวไหนของแอปเปิลผมคิดออกหลายอย่างเลย แต่แบบแว้บมาในหัวคือ Macbook White 2009 (รุ่นสุดท้ายของ Macbook รุ่นธรรมดา) มันมีความขาว มันมีความโค้งมน ขนาดเล็กกว่า กล่อง Bluetooth รุ่นหลังๆที่ทำออกมาหลายๆตัวเสียอีก แต่มันจับได้ถนัดมือ ไม่ลื่น ไม่หลุดนะ ผมไม่เคยทำไอ้กล่องนี่หลุดมือแม้แต่ครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องใส่เคสอะไรให้วุ่นวาย (แต่มันมีขายเพียบเลยนะ) แต่พื้นผิวรอบตัวกล่องเป็นรอยง่ายมาก ผมตั้งใจใช้ให้มันแหกคามือเลยไม่คิดจะป้องกันอะไร ถือว่าทดสอบไปในตัว โอ้โห แม่เจ้าใส่กระเป๋ากางเกงแบบรวมกับเหรียญ กับอย่างอื่น รอยพรึ่บพรั่บ เป็นรอยแบบรอยขูดนะ แต่ไม่มีผลกับการใช้งานอะไรครับ น้ำหนักก็เบาแบบผมพกติดช่องเล็กกระเป๋ากางเกงยีนส์ได้ตลอดเวลาไม่รู้สึกหนักหรือเพิ่มความเทอะทะให้ตัวเองครับ 😆
| เห็นใช้เงียบๆ รอยเพียบนะจ๊ะ |
![]() |
| กล่องเดิมๆ ทำความสะอาดง่ายฝุ่นไม่เยอะ |
หูฟัง
หูทั้งสองข้างมีความหนามากกว่า Earpod ทุกรุ่นที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดจึงทำให้ใส่แล้วไม่หลุดง่ายๆ
ผมลองใส่ตอนนั่งมอเตอร์ไซค์ ถ้ารถเร็วหลัก 100กม./ชม แนะนำให้ถอดหูเก็บครับ เดี๋ยวเสียเงินซื้อใหม่
ใส่แล้ววิ่ง ผมลองแล้วครับ ไม่หลุดแน่นอน แต่อาจจะไม่ใช่กับสภาพใบหูของทุกคนนะครับ(คิดว่านะ)
การสะบัดหัวไปมาแรงๆ ไม่หลุดครับ แต่การยกมือจะเกาหัวแบบเร็วๆ เคยทำหูฟังผมหลุดครั้งนึง 555 😂
การเชื่อมต่อ ระยะห่าง และ ฟังก์ชั่นจากชิป W1
เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จาก Apple / iPhone /iPad
เมื่อทำการเชื่อมต่อกับเครื่องใดก็ตามที่ login Apple id เดียวกันแล้วมันสามารถ switch ไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายมากครับ เช่น ผมปิด Bluetooth บน iPhone แล้วเปิดบน iPad เอาหูฟังออกมาเสียบเข้าหูก็ใช้งานต่อได้เลยจะสามสี่เครื่องสลับไปมาได้หมดครับ แต่ถ้า คนละ Apple id ก็ต้องมานั่ง Pair ใหม่
หูสามารถมีระยะเชื่อมต่อจากตัวเครื่อง (ในที่นี้ iPhone 7 ) ได้ไกลที่สุดที่ผมทดสอบประมาณ 12 เมตร ผมคุยสายสนทนาได้ปกติ แต่เลยไปจากนั้นประมาณ 13 เมตร จะติดๆดับๆ ติดๆขัดๆ ถ้าถึง 15 เมตรจะขาดการเชื่อมต่อครับ
การใช้งานลูกเล่นต่างๆโดยพื้นฐานสมบูรณ์แบบดีครับ เช่นเล่นเพลงอยู่ ถ้าเอาออกข้างนึงเพลงจะ Pause
การแตะสองครั้งที่หูฟังสามารถปรับเปลี่ยนได้ในหน้า Bluetooth ของ iOS เช่น แต่สองที หยุด หรือ เล่นเพลงถัดไป การรับสายวางสายด้วยการแตะสองครั้ง ทำได้ดีมากไม่เคยพลาดไม่ติดเลย
ไมค์สามารถเลือกได้ว่าจะให้ active ที่หูฟังข้างไหน ซ้ายหรือขวา หรืออัติโนมัติ แจ่มเลยครับจุดนี้
หรือว่าจะเป็นการแตะเพื่อเรียกใช้งาน Siri ตรงนี้ผมเคยลองสั่งโทรออก ก็พบว่าทำงานได้ดีครับ
ตัว iOS สามารถตรวจสอบแบตเตอรี่ได้ตลอดเวลา แยกซ้ายขวาและตัวแบตเตอรี่ในกล่อง
และมันสามารถตามหาด้วยฟังก์ชั่น Find my iPhone ได้ด้วยครับ ขึ้นบนแผนที่เหมือนกัน 😮
เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Android Phone /Tablet / Notebook
เป็นเรื่องที่ทำเอาผมอึ้งแต่ก็ต้องยอมรับครับว่า ให้ตายเถอะ การเชื่อมต่อกับ Android "ทำได้เร็วกว่า" ผมทดสอบอยู่หลายที การเชื่อมต่อกับ iOS เมื่อเปิดหูแล้วจะอยู่ราวๆ 7-10 วินาที แต่กับฝั่ง Android จะอยู่ที่ 2-5 วินาทีเท่านั้น ผมทดสอบ เอา iPhone 7 มาวางคู่กับ Oppo A71 ปรากฏว่า Oppo ทำการเชื่อมต่อได้ก่อน แต่อีกคนที่ยังเชื่อมต่อไม่ได้ ถ้าสมมติอยากใช้งานก็กดแทรกเข้ามาดึงได้เลย(ในกรณีที่เคย Pair แล้วนะครับ) ผมก็ให้ iPhone กดดึงมาใช้งาน ฝั่ง Oppo ก็หลุดไปครับ 😆
ข้อเสียของ Android ที่เจอเลยคือความเสถียรจะน้อยกว่า iOS มาก เช่น ดูหนังฟังเพลง หรือคุยโทรศัพท์ก็เถอะ อยู่ๆ สัญญาณหาย ฟังได้ข้างเดียว แต่จะเป็นแบบ แป๊ปๆ 1-3 วินาที ไม่ถึงกับหลุดไปเลยครับ
และฟังก์ชั่นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแตะเพื่อสั่งงานไม่สามารถทำได้ครับ แต่ฟังก์ชั่นพื้นฐานมีอยู่เช่น แตะสองครั้ง รับสายหรือวางสาย แต่สองครั้งเพื่อหยุด หรือเล่นถัดไป (ตรงนี้ อิงตามการตั้งค่ามาจาก iOS ครับ ถ้าการตั้งค่าถูกเปลี่ยน เมื่อมาใช้งาน Android จะเปลี่ยนไปตามนั้นเช่นกัน)
ที่สำคัญครับ "เชื่อมต่อโคตรง่าย"
Battery Life ยาวนานแค่ไหน 🔋
| Air Battery App on Android |
ถ้าไม่ชอบฟังเพลง เน้นเอามาคุยธุระนั่นนี่ ผมแนะนำ ใช้งานทีละข้างครับ ปกติ มันใช้งานได้นานอยู่แล้ว ผมทดสอบ ใช้งานที่ละข้าง มันก็นานขึ้นเป็นสองเท่าครับ(สำหรับการคุยโทรศัพท์นะครับ) แต่สำหรับการดูหนังฟังเพลงเล่นเกมส์ สองข้างดีกว่าแน่นอนครับ
ใช้งานมา 6 เดือนกว่าๆ แบตเสื่อมไหม ส่วนตัวผมไม่รู้สึกว่ามันจะใช้งานได้น้อยลงนะครับ (ผมพกทุกวันเมื่อออกไปนอกบ้าน) แต่อยู่บ้านผมใช้หูฟังสาย หรือไม่ใช้เลยครับ
ถ้าถามว่ามันจะเสื่อมไหม มันมีการเสื่อมไปตามการใช้งานอยู่แล้วครับ แต่ระยะ 6 เดือน - 1 ปี ผมว่าไม่มีปัญหาครับ ถ้าใช้งานไม่หนักมากๆ ผมว่ามี 2 ปีด้วยครับ อีกอย่าง มันเจ๋งตรงที่มันชาร์จเร็วมากๆนี่แหละครับ เสียบแปปๆ ดึงออกใช้งาน เทสแบตดู แบตนี่เขียวปี๋เลยครับ 🔋
พลังเสียงกับการดูหนังฟังเพลง
ผมอาจจะไม่ใช่หูทิพย์หูเทพ แต่บอกได้เลยว่า หากใครชอบเสียงของ Earpod ตั้งแต่ iPhone 5 ขึ้นมา แล้วคุณอยากซื้อไปใช้กับ iOS device ของคุณมันเหมาะที่สุดแล้วไม่ต้องหาอันอื่นแล้วครับ อยากจะใช้คำนี้เลยครับ "ของมันต้องมี" 👌😆
ส่วนตัวผมชอบฟังเพลงด้วยหู Earpod อยู่แล้วบอกได้เลยว่า เสียงพอๆกัน แต่เหมือนจะมีเบสที่มากกว่าและเสียงใสกว่านิดหน่อย (เวลาฟังเสียงคนร้อง)
แต่หากคุณเป็นคนที่เสียงต้องมานำ รายละเอียด เสตจ บาลานซ์ นั่นนี่นู่นผมแนะนำ ลองไปเดินดู Bose หรือ พวกหูฟังไร้สายรุ่นอื่นๆก่อนครับ เช่น Sony เป็นต้น ราคาระดับนี้ หลายๆแบรนด์คุณจะได้ฟังก์ชันอื่นๆเช่นการกันน้ำ หรือ ตัวเกี่ยวหูเพิ่ม เป็นต้นครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาครับ
==> สนใจซื้อ Apple Airpod ติดต่อได้ตรงนี้ครับ <==
==> Adapter ชาร์จเร็ว 30W มาตรฐาน MFI จาก Apple <==
โก๋แก่ คอมพื้นบ้าน 😄

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น